ระบบน้ำหยดแบบอิสราเอล: ต้นแบบการปลูกพืชในพื้นที่ขาดน้ำ

1. กำหนดพืชและระยะปลูก: เช่น มะเขือเทศ ระยะ 40×100 ซม.
2. เลือกหัวหยด: 2 ลิตร/ชม./จุด (2 LPH) วาง 1–2 หัว/ต้น
3. คำนวณอัตราการไหลรวม: ต้น 1 ไร่ (~4,000 ต้น) × 2 LPH ≈ 8,000 LPH
4. กำหนดแรงดันทำงาน: 1.0–1.5 บาร์ (ขึ้นกับหัวหยด/ความยาวท่อ)
5. เลือกปั๊มและท่อ: ให้รองรับ Q รวม + เผื่อสูญเสียแรงดัน (~15–20%)
6. ตารางให้น้ำ: แบ่ง 2–3 ครั้ง/วัน ครั้งละ 15–25 นาที (ปรับตามเซ็นเซอร์)

เคล็ดลับ: ใช้หัวหยดแบบ pressure‑compensating (PC) เมื่อมีความต่างระดับ/ท่อยาว เพื่อให้อัตราการไหลเท่ากันทั้งแปลง

1. เตรียมแหล่งน้ำ + ปั๊มบูสเตอร์ 1–1.5 บาร์ และชุดกรอง 120 mesh
2. ปูท่อเมน PE 25–32 มม. ต่อเข้าท่อย่อย 16 มม. ด้วยตัวล็อกกันรั่ว
3. เจาะเสียบหัวหยด 1–2 หัว/ต้น ตามขนาดพืชและสภาพดิน
4. ติดวาล์วแบ่งโซน (โซนละ 200–400 ต้น) เพื่อคุมแรงดันสม่ำเสมอ
5. วางถังปุ๋ย + เวนจูรี สำหรับให้ปุ๋ยพร้อมรดน้ำ (fertigation)
6. ทดสอบแรงดัน/อัตราการไหล ปรับเวลาให้น้ำจากเซ็นเซอร์ความชื้นดิน

• ระบบพื้นฐานสำหรับ 1 ไร่: ปั๊ม + กรอง + ท่อ + หัวหยด + วาล์ว แบ่งโซน
• เพิ่มงบหากติดตั้งเซ็นเซอร์ความชื้น/EC/pH และคอนโทรลเลอร์อัตโนมัติ
• คืนทุนมาจาก: ประหยัดน้ำ/ปุ๋ย, ลดแรงงาน, เพิ่มคุณภาพและสม่ำเสมอ

*ตัวเลขจริงขึ้นกับยี่ห้ออุปกรณ์ ระยะปลูก และภูมิอากาศ

ถาม: ดินทรายเหมาะไหม?
ตอบ: เหมาะมาก เพราะน้ำซึมเร็ว น้ำหยดช่วยคุมปริมาณและความถี่ได้ละเอียด

ถาม: ใช้กับผักกินใบในโรงเรือนได้ไหม?
ตอบ: ได้ และควบคุมปุ๋ยผ่าน fertigation ให้รสชาติดี ใบสวยสม่ำเสมอ

ถาม: ต้องมีอินเทอร์เน็ตไหม?
ตอบ: ถ้าต้องการบันทึกข้อมูล/สั่งงานทางไกลควรมี แต่ระบบพื้นฐานทำงานออฟไลน์ได้